สติปัฏฐานสี่ ฐานที่ตั้งของสติ
สติปัฏฐานสี่ ฐานที่ตั้งของสติ
สิติปัฏฐานแปลว่าที่ตั้งของสติสติจะเกิดต้องมีที่ตั้งที่ยึดพระพุทธเจ้าพระองค์จึงได้ทรงแสดงสติปัฏฐานไว้ว่าเป็นทางสายเอกสายเดียวสายตรงของการปฏิบัติธรรม สติปัฏฐานที่ตั้งของสตินั้นเมื่อจำแนกออกแล้วมีสี่อย่างดังนี้- กาย คือร่างกายทั้งหมดตามพิจารณากายเนืองๆ อย่างต่อเนื่องยึดเป็นฐานที่ตั้งของสติเอาสติไปกำหนดอยู่ตรงนั้น
- เวทนา คือการเสวยอารมย์ ตามพิจารณาเนืองๆ อย่างต่อเนื่อง
- ใจ หรือจิต ตามพิจารณาซึ่งจิตคือตัวรู้
- ธรรมะ ตามพิจารณาธรรมะ
สี่ อย่างนี้...เป็นทางเดินสู่มรรคผลนิพพานได้ทั้งนั้น แม้จะเลือกทางใดทางหนึ่งอุปมาเหมือนคนจะเดินเข้าเมืองมาทางทิศเหนือก็เข้าถึงตัวเมืองได้ทิศไต้ก็เข้าถึงได้ทิศตะวันออกทิศตะวันตกก็เข้าถึงได้ฉันใดฉันนั้น ของดีมีอยู่ในตัวเราถ้าเราไม่นำมาพิจารณาปฏิบัติย่อมไม่เกิดคุณแก่ตน เช่นเรามีเงินในกระเป๋าอยากกินเงาะกินทุเรียนถ้าเราไม่นำเงินไปชื้อแล้วเราจะได้กินไหม ฉันใดก็ฉันนั้นของมีค่ามีอยู่ในตัวถ้าไม่รู้ค่าไม่นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ย่อมไม่ได้มาซึ่งประโยชน์แก่ตน
คนที่ได้เจริญสติปัฏฐานสี่ คือคนเจริญวิปัสสนากรรมฐานนั่นเอง ดังนั้นที่ตั้งของสติ คือ กาย-เวทนา-ใจ-ธรรมะ เมื่อได้กำหนดสติอย่างต่อเนื่องกิเลสที่นอนตกตะกอนในจิตใจมานานแสนนานก็จะไม่กวน เปรียบดั่งธรรมะเป็นแสงสว่างและกิเลสเป็นความมืดเมื่อแสงสว่างมาความมืดย่อมหายไป การที่เราเพียงสวดมนต์ฟังเทศฟังธรรม หากไม่เจริญสติปัฏฐานสี่หรือวิปัสสนากรรมฐานไม่มีทางที่กิเลสจะลดน้อยลงได้
เทศนาโดย : พระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทธิ)
คนที่ได้เจริญสติปัฏฐานสี่ คือคนเจริญวิปัสสนากรรมฐานนั่นเอง ดังนั้นที่ตั้งของสติ คือ กาย-เวทนา-ใจ-ธรรมะ เมื่อได้กำหนดสติอย่างต่อเนื่องกิเลสที่นอนตกตะกอนในจิตใจมานานแสนนานก็จะไม่กวน เปรียบดั่งธรรมะเป็นแสงสว่างและกิเลสเป็นความมืดเมื่อแสงสว่างมาความมืดย่อมหายไป การที่เราเพียงสวดมนต์ฟังเทศฟังธรรม หากไม่เจริญสติปัฏฐานสี่หรือวิปัสสนากรรมฐานไม่มีทางที่กิเลสจะลดน้อยลงได้
เทศนาโดย : พระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทธิ)